Powered by Jasper Roberts - Blog

แก้ virus open witch

นี่เกิดขึ้นเพราะว่าคุณได้ติดตั้งโปรแกรมที่จะเพิ่มคำสั่งเข้าไป ให้เราเลือกอีกเมื่อคลิกขวาที่ไดรฟ์ C ซึ่งมันจะเข้าไปเปลี่ยนค่าคีย์ใน Registry Entry บางครั้งมันเขียนค่าคีย์มาไม่ดี ไปทำให้ของเดิมที่มีมาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ เหมือนกับที่คุณเป็นนี่แหละครับ
วิธีแก้ 1
- Windows XP ไปที่ Start button-->Run แล้วพิมพ์ regedit กด ok ;  Windos Vista ไปที่ Start button-->All Programs-->Accesories-->Run แล้วพิมพ์ regedit กด ok เพื่อเปิดหน้าต่าง Registry Editor
- ให้บราวซ์ไปตามนี้นะครับ HKEY_CLASSES_ROOT-->Directory-->shell
- ให้ดับเบิลคลิกที่ (default) แล้วเปลี่ยนค่า Data value ให้เป็น none (ให้ได้ค่าเหมือนกับรูปข้างล่างนะครับ)
*   ภาพไม่ค่อยชัด แนบไฟล์ภาพเอาแล้วกัน *

- ถ้าค่าของมันเป็น none อยู่แล้วก็ไม่ต้องเปลี่ยนอะไร
- เท่านี้มันก็จะเปลี่ยนค่า Settings ให้กับไปเป็น by default (ค่าการตั้งมาตรฐาน) เหมือนเดิมแล้วครับ

วิธีแก้ 2
- Windows XP ไปที่ Start button-->Run แล้วพิมพ์ cmd กด ok ;  Windos Vista ไปที่ Start button-->All Programs-->Accesories-->Run แล้วพิมพ์ cmd กด ok เพื่อเปิดหน้าต่าง Command Prompt ขึ้นมา
***********- ให้พิมพ์ regsvr32 /i shell32.dll แล้วกด Enter ที่คีย์บอร์ด   ******************
- มันจะไปแก้ให้ การทำงานแบบปรกติกลับคืนมา หมายเหตุ

ส่วนผู้ที่เห็นข้อความ "Windows cannot find 'PET32.exe'" โผล่ขึ้นมาเมื่อดับเบิลคลิกที่ไดรฟ์ล่ะก็ แสดงว่าเครื่องของคุณมีไวรัส หรือยังคงมีไวรัสค้างอยู่ ให้ไปใช้ anti-virus  ขจัดมันเสียก่อน แล้วค่อยกลับมาใช้ คำสั่ง regsvr32 /i shell32.dll เพื่อแก้ไขปัญหา

ถ้าแก้แบบข้างบนทั้ง 2 ข้อแล้ว แต่เมื่อ Restart เครื่อง แล้วปัญหายังกลับมาอีก ก็แสดงว่าเครื่องของคุณมีปัญหากับไฟล์ autorun.inf ครับ ธรรมดาแล้วพวกมีจุดประสงค์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จะสร้าง virus/trojan file ไว้แบบนี้
ไอ้ตัว autorun.inf เนี่ย มันถูกสร้างมาให้ไปฝังตัวอยู่ที่ รากฐานของ local drives หรือไม่ก็ที่ USB flash drive ส่วนทำไมมันถึงเลือกไปฝังตัวไว้ที่นั่นน่ะหรือครับ ก็เพื่อว่าเมื่อเวลาคุณเปิด My Computer แล้วอยากจะเข้าใช้งาน local drives ด้วยการดับเบิลคลิกที่ไอคอนของ drive (ส่วนใหญ่ก็คือ C) มันก็จะออกคำสั่งให้วินโดว์ เปิดโปรแกรมที่มันต้องการแทนโดยอัตโนมัติ
ถ้าเป็นไวรัสจริง anti-virus  ทั่วไปก็สามารถขจัดได้แต่ executable virus พอเป็น autorun.inf แล้วมันไม่สามารถทำได้หรอกครับ ไม่ว่าจะเป็น anti-virus  ที่เก่งกล้าขนาดไหนก็ตามเถอะ เพราะว่าเจ้า autorun.inf ที่คุณสามารถหามันเจอได้ที่รากฐานของไดรฟ์คุณนั้น มันเป็น instruction (คำสั่ง) ไฟล์เฉยๆ
คุณได้ติดตั้ง ACDSee 10 มา ผมคิดว่าเจ้าของไฟล์อาจจะออกแบบ autorun.inf  ที่สามารถสั่งให้วินโดว์เปิด  ACDSee 10  ขึ้นมาโดยอัตโนมัติเมื่อคลิกที่  local drives

วิธีแก้ 3
- autorun.inf มันจะถูกซ่อนไว้ ยังไงๆ คุณก็หาไม่เจอหรอกครับ ต่อให้ คุณเลือก Show you all files from folder option ใน Control Panel ก็ตามทีเถอะ
- เพื่อจะลบมันทิ้ง คุณต้องใช้วิธีบังคับลบใน CMD เท่านั้น
- ไปที่ Start button-->All Programs-->Accesories-->Run แล้วพิมพ์ cmd กด ok
- ถ้าไดร์ C เป็นไดร์ที่มีปัญหา ให้พิมพ์ C: ในหน้าต่าง command prompt แล้วกด Enter ที่คีย์บอร์ด
- พิมพ์ autorun.infแล้วกด Enter ที่คีย์บอร์ด
- ไฟล์ autorun.inf จะถูกเปิดขึ้นมา
- ปิดหน้าต่าง autorun.inf  แล้วพิมพ์ del autorun.inf ในหน้าต่าง command prompt  แล้วกด Enter ที่คีย์บอร์ด
- มันจะขึ้นข้อความว่า "Could not find C:\autorun.inf"
- ให้พิมพ์ attrib autorun.inf -s -h -r แล้วกด Enter ที่คีย์บอร์ด
- ให้พิมพ์  del autorun.inf แล้วกด Enter ที่คีย์บอร์ด
- ถ้าคุณพิมพ์ autorun.infแล้วกด Enter ที่คีย์บอร์ด อีกครั้ง ไฟล์ autorun.inf ก็จะไม่ถูกเปิดขึ้นมาให้เห็นอีก ส่วนข้อความเตือนข้างล่างนั้นไม่ต้องไปสนใจมัน
- Restart เครื่อง แล้วไปลองคลิกขวาดู ก็จะเห็นว่า ตัว Open กับ Explore จะกลับมาทำงานได้เหมือนเดิม
- เสร็จแล้วครับ

- รบกวนช่วยรายงานความคืบหน้าด้วยครับ
- ถ้าคุณยังมีปัญหาอีก แสดงว่าเครื่องของคุณมีไวรัส หรือยังคงมีไวรัสค้างอยู่ ทีนี้ขอให้ไปสร้างกระทู้ไว้ใน  คอมนู๋ไม่รู้เป็นไร - ปัญหาติดไวรัส สปายแวร์ นะครั

แก้ hilight desktop


พอกันทีกับปัญหาการที่ icon บน destop มี high light ไม่สวยงามด้วยวิธีที่เราจะเสนอท่านดังต่อไปนี้

1. ไปที่ปุ่ม Start

2. เลือก "Control Panel"

3. แล้วเลือก icon ที่ชื่อว่า "System"

4. ไปที่ แถบที่ชื่อ Advance แล้วมองที่กรอบที่มีคำว่า Performance  คลิกคำว่า setting ในกรอบนั้น

5. เลือก แถบที่ชื่อ "Visual Effects" แล้วเลือกติ๊กที่ "Use Drop Shadows for Icon Labels"   แล้วก้อกด Apply แล้วก้อ OK

การเซตแอกเซสพอยน์ยี่ห้อ Linksys

การเซตแอกเซสพอยน์ยี่ห้อ Linksys รุ่น WAP54G 8 Months, 3 Weeks ago Karma: 3
1. set แอกเซสพอยน์ให้เป็น factory default โดยกดปุ่ม Reset ค้างไว้ประมาณ 10 วินาที

2. เครื่องจะมีหมายเลขไอพีเป็น 192.168.1.245 และ SSID เป็น linksys

3. ใส่เลข IP Address ให้กับเครื่องโน้ตบุ๊คเป็น 192.168.1.3 subnet mask 255.255.255.0

4. เชื่อมต่อเครื่องแอกเซสพอยน์เข้ากับเครื่องโน้ตบุ๊ค จากนั้นเปิดบราวเซอร์หน้าต่างใหม่แล้วใส่ 192.168.1.245 ในช่อง Address

5. เข้าสู่การคอนฟิกโดยช่อง Username ปล่อยว่างไว้และช่อง Password เป็น admin




ไม่สามารถจะคอนฟิกแบบ Open พร้อมกับแบบ WPA ด้านล่าง ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง



การคอนฟิกแอกเซสพอยน์ให้ใช้แบบ Open ต่อผ่าน chillispot

ุคลิกแท็บ Wireless > Basic Wireless Settings

Mode: Mixed


Network Name(SSID): group1-open

Channel: เลือกตามหมายเลขกลุ่ม

SSID Broadcast: Enabled


คลิกปุ่ม Save Settings
คลิกแท็บ Setup > Network Setup

ในส่วน Configuration Type: เลือกตั้งหมายเลขไอพีแบบ Automatic Configuration-DHCP (สำคัญมาก chillispot จะทำงานไม่ได้ถ้าเลือกเป็น static)


คลิกปุ่ม Save Settings



หลังจากคลิกปุ่ม Apply ไปแล้วจะไม่สามารถเข้าคอนฟิกแอกเซสพอยน์ทางบราวเซอร์ได้อีกต่อไป เพราะมันลบเลขไอพี 192.168.1.245 ไปแล้ว และเปลี่ยนเป็นรับเลขไอพีจาก dhcp




ในขั้นนี้จะสามารถใช้งานแบบ open และ Web Login ได้แล้ว



การคอนฟิกแอกเซสพอยน์ให้ใช้แบบ WPA ต่อตรงกับเรเดียสเซิร์ฟเวอร์

ุคลิกแท็บ Wireless > Basic Wireless Settings

Mode: Mixed


Network Name(SSID): group1-wpa

Channel: เลือกตามหมายเลขกลุ่ม

SSID Broadcast: Enabled


คลิกปุ่ม Save Settings

คลิกแท็บ Wireless > Security

Security Mode: WPA-Enterprise

Encryption: TKIP

RADIUS Server: ใส่ IP ที่กำหนดให้ (10.0.1.1)


RADIUS Port: 1812

Shared Secret: mytestkey

คลิกปุ่ม Save Settings

คลิกแท็บ Setup > Network Setup

ในส่วน Configuration Type: เลือกตั้งหมายเลขไอพีแบบ Static IP แล้วตั้ง IP เป็น 10.0.1.2 /24

คลิกปุ่ม Save Settings



การคอนฟิกแอกเซสพอยน์ให้ใช้แบบ WPA ต่อผ่าน chillispot

ุคลิกแท็บ Wireless > Basic Wireless Settings

Mode: Mixed


Network Name(SSID): group1-wpa

Channel: เลือกตามหมายเลขกลุ่ม

SSID Broadcast: Enabled


คลิกปุ่ม Save Settings

คลิกแท็บ Wireless > Security

Security Mode: WPA-Enterprise

Encryption: TKIP

RADIUS Server: ใส่ IP ที่กำหนดให้ (10.0.1.1)


RADIUS Port: 1812

Shared Secret: mytestkey

คลิกปุ่ม Save Settings
คลิกแท็บ Setup > Network Setup

ในส่วน Configuration Type: เลือกตั้งหมายเลขไอพีแบบ Automatic Configuration-DHCP (สำคัญมาก chillispot จะทำงานไม่ได้ถ้าเลือกเป็น static)

คลิกปุ่ม Save Settings



หลังจากคลิกปุ่ม Apply ไปแล้วจะไม่สามารถเข้าคอนฟิกแอกเซสพอยน์ทางบราวเซอร์ได้อีกต่อไป เพราะมันลบเลขไอพี 192.168.1.245 ไปแล้ว และเปลี่ยนเป็นรับเลขไอพีจาก dhcp

cardit : http://mamboeasy.psu.ac.th/~wiboon.w/content/view/39/40/